##เห็ดเป็นราชนิดหนึ่งซึ่งไม่จัดเป็นพืชหรือสัตว์ ไม่มีสารสีเขียว(chlorophyll) เหมือนพืช จึงไม่สามารถปรุงอาหารกินเองได้ ไม่มีระบบประสาทหรืออวัยวะและไม่สามารถเคลื่อนที่ได้เช่นสัตว์ การเจริญเติบโตของเห็ดมีลักษณะเป็นเส้นใยรวมกัน
ความสำคัญของเห็ด
## มนุษย์ทั่วโลกรู้จักเห็ดมานานที่สายพันธุ์ของเห็ด มากกว่า 30,000 สายพันธุ์ แต่มีถึงร้อยละ 99 สายพันธุ์ที่บริโภคได้ที่เหลือร้อยละ 1 เป็นเห็ดพิษหรือเห็ดเมาในอดีตเห็ดที่นำบริโภคนั้นมีเพียงไม่กี่ชนิด เช่น เห็ดฝรั่ง เห็ดหอม เห็ดโคน และเห็ดฟาง
##ในปัจจุบันพบว่าหลายๆประเทศหันมาให้ความสนใจและร่วมมือกันในการวิจัยและค้น คว้า ทดลอง คัดเลือก และปรับปรุงพันธุ์เห็ด ให้มีจำนวนมากขึ้น และพัฒนาเทคนิควิธีการเพาะเลี้ยงและขยายพันธุ์เพื่อเพิ่มปริมาณผลผลิตให้ เพียงพอกับความต้องการของผู้บริโภค
##ประเทศไทยเป็นประเทศที่เหมาะต่อการเพาะเห็ดอย่างมาก เพราะมีวัสดุเหลือใช้จากพืชเศรษฐกิจสามารถนำมาดัดแปลงเพาะเห็ดได้เป็นอย่าง ดีประกอบกับมีสภาพดินฟ้าอากาศที่เหมาะสมต่อการเจริญเติบโตของเห็ดเกือบทุก ชนิด ดังนั้นจึงควรส่งเสริมให้เกษตรกรหันมาเพาะเห็ดกันอย่างจริงจังแล้ว จะช่วยเพิ่มอาหารที่มีคุณค่าและทำให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้น
การจำแนกประเภทของเห็ด
##เห็ดสามารถจำแนกได้เป็น 3 กลุ่ม ได้แก่
1. กลุ่มที่ใช้เป็นอาหาร เห็ดมีคุณค่าทางอาหารหลายชนิดโดยเฉพาะโปรตีนและวิตามิน ได้แก่ เห็ดฟาง เห็ดนางรม เห็ดนางฟ้า เห็ดเป๋าฮื้อ เห็ดหูหนู
2. กลุ่มที่ใช้เป็นยาสมุนไพร นอกจากเป็นอาหารแล้วยังมีคุณค่าทางสรรพคุณยา ได้แก่ เห็ดหลินจือ เห็ดหอม
3. กลุ่มเห็ดที่มีพิษ เห็ดในกลุ่มนี้หลายชนิดมีพิษรุนแรงหากบริโภคเข้าไปอาจจะทำให้เสียชีวิต ได้แก่ เห็ดระโงกหิน(กลาง) เห็ดระงาก (อีสาน) เห็ดเหล่านี้แม้จะต้มให้สุกเป็นเวลานานก็ยังคงมีพิษคงเดิม
ประโยชน์ของเห็ด
1. คุณค่าทางอาหารของเห็ด จากการค้นคว้าเกี่ยวกับคุณค่าทางอาหารของเห็ด โดยกรมวิทยาศาสตร์พบว่า เห็ดที่มีจำหน่ายในท้องตลาด เช่น เห็ดฟาง เห็ดหูหนู เห็ดนางรม เห็ดเป๋าฮื้อ และเห็ดนางฟ้า เมื่อนำมาวิเคราะห์พบว่าประกอบด้วยสารอาหาร พวกคาร์โบไฮเดรต โปรตีน ไขมัน แร่ธาตุต่างๆ และวิตามิน ที่แตกต่างกัน จากชนิดสารอาหารที่ พบในเห็ดดังกล่าว ย่อมพิสูจน์ได้ว่าเห็ดเป็นอาหารที่มีคุณค่าเทียบเท่าเนื้อสัตว์จริง
2. สรรพคุณทางยา ของเห็ด ในการบริโภคอาหารควรเลือกบริโภคพืชผักที่มีคุณค่าทางอาหารทดแทนเนื้อสัตว์ บ้าง โดยเฉพาะพืชที่ประเภทเห็ดจะไม่มีสารคอเรสตอรอลที่เป็นอันตรายต่อระบบไหล เวียนโลหิตประกอบกับเห็ดมีปริมาณธาตุโซเดียมค่อนข้างต่ำ จึงจัดเป็นอาหารที่เหมาะสำหรับ ผู้ป่วยที่เป็นโรคตับ โรคไตโรคหัวใจ และความดันโลหิตสูง
7. เห็ดเข็มทอง เป็นเห็ดสีขาวหัวเล็ก ๆ ขึ้นติดกันเป็นแพ รสชาติเหนียวนุ่ม นำมารับประทานแบบสดๆหรือใส่กับสลัดผักก็ได้ ถ้าชอบสุกก็นำไปย่าง ผัดหรือลวกแบบสุกี้ ถ้ากินเป็นประจำจะช่วยรักษาโรคตับโรคกระเพาะ และลำไส้อักเสบเรื้อรัง
8. เห็ดโคน ช่วยเจริญอาหาร บำรุงกำลัง
แก้บิดแก้คลื่นไส้อาเจียน แก้ไอ ละลายเสมหะ การทดลองทางเภสัชศาสตร์พบว่ าน้ำที่สกัดจากเห็ดโคนสามารถ ยับยั้งเชื้อโรคบางชนิด
เช่นเชื้อไทฟอยด์
เห็ดในประเทศไทย
เห็ดในประเทศไทย
1. เห็ดไค หรือ เห็ดหล่มกระเขียว Russula virescens
สุดยอดของเห็ดที่นับได้ว่าหายาก
และอร่อยที่สุด
อาจมีชื่อเรียกต่างกันออกไป ลักษณะของเห็ดไค เป็นเห็ดที่มีสีขาว มีสีเขียวแซมๆ ดอกใหญ่และแข็ง มีกลิ่นหอม
โดยเฉพาะเวลาย่างไฟจะมีกลิ่นหอมเป็นพิเศษ นิยมนำมาทำแกง และน้ำพริก
(แจ่วเห็ดไค)2. เห็ดมันปู
ประกอบด้วยวิตามินเอและกรดอมิโนที่จำเป็นต่อร่างกาย หลายชนิด อาทิเช่น isoleucine, leucine เป็นต้น ดอกเห็ดสีเหลืองขนาด 2-7 เซนติเมตร กลางหมวกเป็นแอ่งขอบเป็น คลื่น ริมขอบม้วนเข้าด้านใน ครีบทอดตัวยาวจากริมขอบจรดก้าน ก้านทรงกระบอกผิวเรียบสีเหลืองอ่อน ก้านยาว มีมากในประเทศไทยและแถบยุโรป ประมาณเดือน มิถุนายน ถึงพฤษจิกายน นำมาทำอาหารได้หลายอย่าง เช่น ต้ม ผัด
3. เห็ดเผาะ หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า เห็ดถอบ
เป็นเห็ดที่มีรสเย็น หวาน โดยมากให้เป็นอาหารบำรุงร่างกาย ช่วยความสึกหรอในร่างกายที่ชำรุดไปให้เป็นปกติ และกระจายโลหิต เป็นธาตุโปรตีนที่ดี อาจเป็นเพราะคุณสมบัติเหล่านี้ เห็ดเผาะจึงเป็นเห็ดที่ได้รับความนิยมมากและมีราคาแพง
4. เห็ดระโงก
5. เห็ดตับเต่า
กินได้ อร่อยด้วย มีกลิ่นเฉพาะตัว ทานเเก้หวัดได้ เพราะมีสารต้านไวรัส หาได้ทั่วไป
จริงๆแล้วในประเทศไทยยังมีเห็ดอีกมากมายที่น่าสนใจ แต่วันนี้ขอพอแค่นี้ก่อน มีเวลาจะมาอัพเดตเพิ่มเติมนะค่ะ
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น